มาเที่ยวกันมั้ยพี่...ที่นี่เมืองตรัง

“จังหวัดตรัง” เป็นจังหวัดเล็กๆ เงียบสงบ อาหารอร่อย มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามหลายแห่ง เป็นจุดหมายที่นักดำน้ำหลายคนอยากไปเยือน

ทริปนี้เราจะพาไปชม ถ้ำมรกตอันซีนเมืองตรัง ดำน้ำชมปะการังและฝูงปลาน่ารักๆ หาดมดตะนอยจุดชมพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติก ชมสถานีรถไฟกันตังอายุกว่า 100 ปี ลอดท้องมังกรที่ถ้ำเลเขากอบ เยี่ยมบ้านคุณชวน อดีตนายกฯ คนที่ 20 ของเมืองไทย ชมพิพิธภัณฑ์บ้านพระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี เจ้าเมืองที่ปกครองเมืองตรัง เดินสะพานศึกษาเรือนยอดไม้ในสวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่าย แช่น้ำร้อนที่บ่อน้ำร้อนกันตัง

คนกรุงเทพฯอย่างเราๆ คิดถึงการไปเที่ยวตรัง จะหารถหาเรือที่ไหน จุดท่องเที่ยวอยู่ตรงไหนไปที่ไหนก่อนหลัง คิดแล้วไม่ง่ายๆ ว่าแล้วไปกับทัวร์ดีกว่า เอาตัวไปให้ถึงตรังพอเดี๋ยวมีรถมาพาไปเที่ยว ถึงเวลามีคนจัดการเรื่องอาหารเรื่องที่พัก เราถ่ายรูปเล่นดื่มด่ำธรรมชาติสบาย ทริปนี้จึงได้เดินทางร่วมคณะไปกับมดตะนอยรีสอร์ท เค้าจัดทริปได้ดีจริงๆ สนุกสนานอบอุ่น และต้องชมการจัดการที่ดีมาก สามารถนำผู้สูงวัยอายุ 84 และ 82 ไปชมถ้ำมรกตและดูปะการังดูฝูงปลาได้ เก่งจริงๆ

อารัมภบทมายืดยาวไปชมภาพสวยๆ กับรายละเอียดสถานที่เที่ยวกันดีกว่า

ขอเริ่มต้นด้วยภาพประทับใจของทริปนี้ครับ ภาพพระอาทิตย์อัสดง ณ หาดมดตะนอย

โปรแกรมทัวร์ของเราเริ่มต้นที่สนามบินตรัง พอลงเครื่องรถตู้ของมดตะนอยรีสอร์ทก็มารอรับเราที่สนามบินแล้ว และพาเรามาที่ร้านขนมเปี๊ยะซอย9 ของอร่อยของฝากขึ้นชื่อของเมืองตรัง เค้ามีให้ชิมกันได้เต็มที่พร้อมน้ำชาหอมๆ ซื้อไม่ซื้อไม่ว่าชิมได้ ใครจะซื้อก็สั่งเอาไว้แล้ววันกลับรถจะพามาแวะรับของอีกทีนึง

ถนนจากตัวเมืองตรังไปอำเภอกันตัง ร่มรื่นมองไปทางไหนก็เขียวชอุ่ม รถไม่มากวิ่งสบายๆ

จุดท่องเที่ยวแรกของเราคือ “ถ้ำเลเขากอบ” การเข้าชมต้องนั่งเรือเข้าไป เรือลำนึงนั่งได้ 5 คน ช่วงแรกก็พายชิลๆกันไป พอเข้ามาในถ้ำก็ต้องก้มหลบหินงอกหินย้อยเป็นระยะๆ ถึงจุดนึงก็ต้องขึ้นจากเรือมาเดินชมโถงถ้ำ ภายในก็มีหลายโถงถ้ำแต่เปิดให้บริการท่องเที่ยว 5 ถ้ำ ได้แก่ ถ้ำคนธรรพ์ ถ้ำท้องพระโรง ถ้ำรากไทร ถ้ำเจ้าสาว

หลังเดินชมถ้ำจะหมดเราก็กลับมาลงเรือ ช่วงนี้เจ้าหน้าที่จัดให้เรานอนราบไปกับเรือ ผมก็งงๆ อยู่ว่าต้องขนาดนั้นเชียวหรือ พอเรือเข้าสู่ ถ้ำลอด หรือ ถ้ำมังกร ซึ่งเป็นไฮไลท์ของที่นี่ คุณพระ!! หน้าผมห่างจากเพดานถ้ำแค่ไม่กี่นิ้ว ทางก็แคบเรือชนผนังถ้ำเป็นระยะๆ การได้เข้าถ้ำมังกรนี้เปรียบเสมือนการลอดผ่านท้องมังกร ซึ่งมีความเชื่อว่าการลอดผ่านท้องมังกรจะทำให้พบแต่ความโชคดี และได้ความมันส์และเสียวด้วย.555

หลังจากรับบุญแบบเสียวๆ จากการลอดท้องมังกรกันมาแล้ว เราก็มาแช่เท้าผ่อนคลายกันที่บ่อน้ำร้อนกันตัง “วนอุทยานบ่อน้ำร้อนกันตัง” (บ่อน้ำร้อนควนแคง) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ มีบ่อน้ำร้อนจำนวน 3 บ่อ มีอุณหภูมิของน้ำประมาณ 70 องศา / 40 องศา / 20 องศา มีจุดแช่น้ำร้อนทั้งแบบรวมและแบบส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ แต่เราคงไม่ได้เดินชม เพราะต้องรีบไปให้ทันชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สุดแสนโรแมนติกที่หาดมดตะนอย

เที่ยวกันมา 2-3จุดแล้ว ต่อไปเราก็จะไปยังมดตะนอยรีสอร์ท พอมาถึงเรือรับส่งก็จอดรอเราอยู่แล้ว แต่ผมก็โอ้เอ้นิดหน่อยก็บรรยากาศรอบๆ ท่าเรือสวยซะขนาดนี้

ตลอดเส้นทางวิวทิวทัศน์สวยดี ถ่ายรูปเพลินๆ แป๊ปเดียวก็มาถึงมดตะนอยรีสอร์ท

ถึงมดตะนอยรีสอร์ทแล้ว บรรยากาศร่มรื่นมากกๆๆ บ้านพักแต่ละหลังก็ห่างกันพอประมาณให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวดี ภายในห้องพักห้องน้ำห้องท่าก็สะอาดสะอานดี บริเวณส่วนกลางของรีสอร์ทมี ชา กาแฟ โอวันติน กินได้ตลอด

หลังจากเก็บข้าวเก็บของเข้าห้องพักเรียบร้อยก็เป็นเวลาอิสระ ใครใคร่กระโดดก็โดด นักถ่ายรูปก็ตั้งขาตั้งเตรียมถ่ายรูป

พระอาทิตย์อัสดง ณ หาดมดตะนอย

เมื่อความงามของพระอาทิตย์หมดไป ความงามของดวงดาวก็เข้ามาแทนที่

เราจบวันแรกด้วยมื้อเย็นที่มดตะนอยรีสอร์ท เค้าจัดอาหารเป็นสารพัดเมนูปูเสิร์ฟไม่อั้น กินกันตัวแทบแตก

แล้วพระอาทิตย์ก็กลับมาในเช้าวันใหม่ หาดมดตะนอยนี่สวยทุกช่วงเวลาจริงๆ

ระหว่างรออาหารเช้าก็ถ่ายรูปปูเล่นซิครับ อาหารเช้าแบบเบาๆ โจ๊กไก่ใส่ไข่+กาแฟ+ปาท่องโก๋+นักเก็ต+ห้อยจ้อ ดูแล้วก็ไม่เบานะ.555

แล้วก็ได้เวลาออกทะเล เรือใช้เวลาประมาณชั่วโมงเศษถึงจุดหมายแรก ระหว่างนี้ไม่มีอะไรดีไปกว่าถ่ายรูปสาวๆบนเรือ

จุดหมายแรกของวันนี้คือเกาะกระดาน ชายหาดขาวสะอาดน้ำทะเลสีสวยมากกกๆ ที่จุดนี้ก็ปล่อยตามอัธยาศัย ใครอยากว่ายน้ำเล่นถ่ายรูปเล่นก็ตามสะดวก

จุดต่อมาเราก็มาชมปะการังน้ำตื่น

แล้วก็มาถึงไฮไลท์ของทริปนี้ “ถ้ำมรกต” มดตะนอยรีสอร์ทเค้ามีการจัดการที่ดีมากโดยให้นักท่องเที่ยวเกาะกันเข้าไปอย่างที่เห็นในภาพแล้วก็มีเจ้าหน้าที่นำและปิดท้าย ด้วยวิธีนี้คนว่ายน้ำไม่เป็นและผู้สูงอายุก็เข้าไปเที่ยวได้

บรรยากาศภายในหลังจากว่ายน้ำเข้ามา จุดที่สวยของที่นี่คือช่วงจะออกจากถ้ำแสงแดดจากด้านนอกจะส่องให้น้ำใสเป็นสีเขียวสมชื่อถ้ำมรกตเลย เสียดายที่ไม่มีกล้องกันน้ำเลยไม่ได้ถ่ายภาพมา แต่ทางมดตะนอยรีสอร์ทเค้ามีกล้องกันน้ำและมีเจ้าหน้าที่คอยถ่ายรูปนักท่องเที่ยวให้ด้วยนะ ดูรูปถัดไปเลย

นี้เป็นภาพจากกล้องของมดตะนอยรีสอร์ท

จุดสุดท้ายทางทะเลเรามาว่ายน้ำชมฝูงปลากัน

นี้เป็นอีกหนึ่งการจัดการที่ดีเยี่ยม เค้าทำกะละมังท้องกระจกแล้ววางไว้บนห่วงยางสำหรับคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นจะได้ดูปลาได้ ใครว่ายน้ำเป็นก็ใส่สน็อกเกิ้ลว่ายไปดูได้เอง ในภาพคุณป้าวัย 84ปี ก็ลงไปดูปลาได้สบายเลย

จบทริปวันที่สองอย่างประทับใจ อ้อ..ลืมเล่า ระหว่างกลับขึ้นบนเรือแต่ละจุดจะมีของว่าง+ผลไม้+ชากาแฟ รวมถึงอาหารกลางวันให้กินกันตลอดเลย ประเภทว่าขึ้นเรือก็กิน กินเสร็จก็เที่ยวต่อ

วันสุดท้ายของทริปเรากลับมาเที่ยวบนบกกันต่อ จุดแรกคือ “สถานีรถไฟกันตัง” มาเที่ยวตรังถ้าไม่ได้มาถ่ายรูปที่สถานีรถไฟกันตังก็คงจะกระไรอยู่ สถานีรถไฟกันตังเปิดใช้งานมาแล้วกว่า 100ปี มีสถาปัตยกรรมที่สวยงามมากจนกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานโดยเมื่อ พ.ศ. 2539

ที่ต่อมาคือ “พิพิธภัณฑ์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี” เป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองตรัง “จวนเก่าเจ้าเมืองตรัง” หรือบ้านพักอดีตเจ้าเมืองตรัง พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี

บ้านคุณชวน อดีตนายกฯ คนที่ 20 ของเมืองไทย

จุดสุดท้ายของทริปนี้คือ “สวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่าย” แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศบนพื้นที่ 2,600 ไร่ ไฮไลท์ของที่นี่คือสะพานศึกษาเรือนยอดไม้ สะพานมีความยาว 175 เมตร ความสูง 3 ระดับ ตั้งแต่ 10 – 18 เมตร ประกอบด้วย 5 ช่วงสะพาน และ 6 หอคอย เนื่องด้วยเวลาน้อยเดินถึงแค่หอคอยที่2 เอง