ปทุมธานีใกล้นิดเดียว วันเดียวก็เที่ยวได้

ปทุมธานี จังหวัดใกล้ๆกรุงเทพฯ แค่นี้ เคยไปเที่ยวกันบ้างหรือป่าว!! ต้องมีหลายคนแน่ที่ตอบว่าไม่เคยเลย มาๆมาดูกัน จังหวัดปทุมธานีมีที่เที่ยวที่น่าสนใจที่ไหนกันบ้าง

สายวัดสายบุญต้องไป วัดปัญญานันทาราม วัดโบสถ์ วัดสิงห์ ตลาดน้ำตลาดโบราณต้อง ตลาดระแหง 100 ปี ตลาดอิงน้ำสามโคก สายเกษตรเรียนรู้การทำนาที่บ้านครูธานี ชมกระบองเพชรสวยๆที่กระท่อมลุงจรณ์ นอกจากนี้ยังมี พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ และหอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ

มากมายหลายหลากเลยนะ ไปๆดูภาพสวยๆและรายละเอียดแต่ละที่กันจ้า....

วัดปัญญานันทาราม ก่อตั้งโดยพระพรหมมังคลาจารย์ (ปั่น ปทุมุตฺตโร) หรือที่เรารู้จักกันคือ หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ มีเจดีย์พุทธคยาจำลอง (พุทธมหาเจดีย์)ซึ่งถอดแบบมาจากประเทศอินเดีย ภาพปริศนาธรรมแบบ 3 มิติ ที่จัดแสดงอยู่ด้านล่างเจดีย์พุทธคยา เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปถ่ายรูปได้ นอกจากนี้ยังมี เสาอโศก และกุสินาราสถานที่เสด็จดับขันธปรินิพพานแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จำลองอีกด้วย

วัดโบสถ์ มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คือหลวงพ่อเหลือ ถือเป็นพระคู่บ้านคู่เมือง ของเมืองปทุมธานี รอบๆ วัด มีทิวทัศน์ที่สวยงาม สถานที่ตั้งของวัดโบสถ์อยู่บริเวณคุ้งน้าท้องมังกรของแม่น้าเจ้าพระยา รูปเหมือน สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เทศนาธรรมองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยนอกจากนั้นภายในบริเวณวัด ยังมีตลาดริมน้าชื่อ ตลาดประชารัฐ ขายอาหารคาว หวาน จากฝีมือชาวบ้านท้องถิ่นที่รสชาติอร่อย สาหรับผู้มาเที่ยววัดอีกด้วย

วัดสิงห์ เป็นวัดโบราณคู่เมืองสามโคก สร้างตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา อุโบสถ มีร่องรอยของการบูรณะในสมัยรัตนโกสินทร์ หน้าบันด้านหลังเป็นไม้แกะสลัก ซุ้มประตู-หน้าต่างเป็นปูนปั้น ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปสมัยอู่ทอง วิหารน้อย ตั้งอยู่ด้านข้างกับอุโบสถ มีฐานแอ่นโค้งเหมือนเรือสาเภา อันเป็นเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมในสมัยอยุธยา ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปสมัยเดียวกัน นามว่า หลวงพ่อดา โกศพญากราย โกศบรรจุอัฐิหลวงพ่อพญากราย พระมอญธุดงค์ซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดเป็นโกศปูนประดับด้วยลวดลายปูนปั้นและกระจกสี บรรจุอัฐิของ พญากราย พระราชาคณะ และอดีตเจ้าอาวาสที่ครองวัดในช่วงรัชกาลที่ 2 เจดีย์ ตั้งเรียงกันหน้าอุโบสถ มีจานวน 6 องค์ รูปแบบเป็นเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองกุฏิพระโบราณสมัยอยุธยา ศาลาดิน อาคารเก่าแก่สมัยอยุธยา ที่สาคัญเป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อโต” พระพุทธรูปลงรักปิดทองปางมารวิชัยศิลปะอยุธยา มีอายุกว่า 320 ปี และด้านหลังของหลวงพ่อโตจะมี “หลวงพ่อเพชร” พระพุทธรูปปางไสยาสน์ อันเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวรามัญมาแสนนาน ว่ากันว่าใครอยากประสบความสาเร็จในชีวิตและหน้าที่การงานให้มาขอพรและถวายมะพร้าวอ่อน

ตลาดระแหง 100 ปี เป็นชุมชนเก่าแก่ริมคลองระแหง มีบ้านเรือนเป็นเรือนแถวไม้เก่าแก่อายุมากกว่า 100 ปี ร้านขายของชำแบบโบราณ ร้านอาหารเก่าแก่ที่อร่อยๆหลายร้าน เช่น ร้านแปโภชนา ร้านอากง เมี่ยงคำอิกคิว ก๋วยเตี๋ยวโบราณตาพ้ง เป็นต้น

ตลาดอิงน้ำสามโคก เป็นถนนสายวัฒนธรรมที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับวัฒนธรรม ประเพณี บรรยากาศของตลาดเก่าดั้งเดิมที่ทำมาค้าขายทางเรือ วิถีชุมชนของคนหลากหลายชาติพันธุ์ ทั้งชาวไทย ชาวมอญ ชาวจีน และชาวมุสลิม ที่อาศัยอยู่ในชุมชนเดียวกันอย่างมีความสุข ได้ชิมอาหารอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์พื้นถิ่น มีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เช่น อาคารที่ว่าการอำเภอสมัย รัชกาลที่ 6 อนุสาวรีย์สุนทรภู่ วัดบางเตย ศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่ ฯลฯ พร้อมมุมถ่ายรูป ชิค ชิค ทั้ง Wall Art วิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา

บ้านครูธานี หอมชื่น เป็นแหล่งเรียนรู้การทำนา และวิถีชีวิตของเกษตรกรชาวไทย ชมบ้านเรือนไทยภาคกลางและร่วมเรียนรู้เกี่ยวกับการทำนาตามแบบดั้งเดิม มีกิจกรรมเก็บไข่ในเล้าไก่ การเล่นเครื่องเล่นโบราณ สัมผัสและเรียนรู้ควายไทย ทดลองดำนาในท้องนาจริงๆ เช็คข้อมูลวันและเวลาที่จัดกิจกรรมได้ที่เฟซบุ๊ก บ้านนาครูธานี

กระท่อมลุงจรณ์ เป็นสถานที่ที่คนรักแคคตัสห้ามพลาด!! บนพื้นที่ 5 ไร่ มีกระบองเพชรมากกว่า 2,000 สายพันธุ์ ตั้งแต่สายพันธุ์ทั่วๆไปจนถึงสายพันธุ์ที่หาดูยากเปิดให้เข้าชมกันแบบฟรีๆ ถูกใจต้นไหนก็สามารถซื้อกลับบ้านได้ ราคามีตั้งแต่ไม่กี่สิบบาทไปจนถึงหลักแสนบาท นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์สำหรับเลี้ยงกระบองเพชรขายด้วย เรียกได้ว่ากระท่อมลุงจรณ์เป็นสวรรค์ของคนรักกระบองเพชรจริงๆ

หอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติ เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เผยแพร่พระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจนานัปการ ที่พระองค์ทรงปฏิบัติบาเพ็ญด้วยพระวิริยะอุตสาหะ และพระปรีชาสามารถ เพื่อพระราชทานความผาสุกร่มเย็นแก่พสกนิกรทั่วประเทศ

พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 200 ไร่ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เผยแพร่พระอัจฉริยภาพของพระมหากษัตริย์ไทยกับความสัมพันธ์ในด้านการเกษตรตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยจัดแสดงนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับโครงการพระราชดำริ พระราชกรณียกิจ และโครงการพระราชพิธีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องด้านการเกษตร แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ พิพิธภัณฑ์ในอาคาร นำเสนอพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ด้านการเกษตรและวิถีเกษตรไทยผ่านสื่อผสมผสานที่ทันสมัย และพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ซึ่งเป็นฐานเรียนรู้การทำการเกษตรต่างๆ