10+1 จุดเช็คอินเขื่อนภูมิพล จังหวัดตาก

เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ไปเที่ยวเขื่อนภูมิพลกันมาแล้ว ทุกคนที่ไปต้องได้ไปถ่ายรูปเช็คอินที่สันเขื่อนภูมิพล แต่เขื่อนภูมิพลมีจุดท่องเที่ยวมากว่าแค่สันเขื่อนนะ วันนี้เรารวมจุดเช็คอินเขื่อนภูมิพลที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้มาให้ชมกันจ้า...

10 จุดเช็คอินเขื่อนภูมิพลก็มี สันเขื่อน, หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์, สวนน้ำพระทัย, อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ, ต้นไม้ของพ่อ, โรงผลิตไฟฟ้าเขื่อนภูมิพล, สะพาน 50 ปี, สะพานปิงพิพรรธน์, หาดหัวหิน และ เขื่อนแม่ปิงตอนล่าง

ส่วนอีกหนึ่งจุดคือ “อาคารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน” จะเปิดให้เข้าชมและมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 พ.ค.62 นี้จ้า…

รู้อย่างนี้แล้วถ้ามาเขื่อนภูมิพลคราวหน้าต้องเช็คอินกันให้ครบทุกจุดเลยน๊า...

1. “เขื่อนภูมิพล” เป็นเขื่อนคอนกรีตโค้งแห่งเดียวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นอันดับ 8 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกทั้งยังเป็นเขื่อนเอนกประสงค์แห่งแรกของประเทศไทยอีกด้วย เดิมทีเขื่อนแห่งนี้มีชื่อว่าเขื่อนยันฮี ต่อมาเมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม พ.ศ.2500 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระปรมาภิไธยให้เป็นชื่อเขื่อนว่า เขื่อนภูมิพล และต่อมาพระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์การก่อสร้าง เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2504 ทั้งนี้ การสร้างเขื่อนแห่งนี้ขึ้นมานั้น เพื่อปิดกั้นลำน้ำปิงที่บริเวณเขาแก้ว อำเภอสามเงา จังหวัดตาก มีรัศมีความโค้ง 250 เมตร สูง 154 เมตร ยาว 486 เมตร ความกว้างของสันเขื่อน 6 เมตร โดยอ่างเก็บน้ำของเขื่อนนับว่ามีความจุสูงสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำจืดที่สำคัญของเมืองไทย

2. “หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์จำลอง” ปี 2542 เป็นปีมหามงคลที่วาระคล้ายพระราชสมภพของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ เวียนมาครบ 6 รอบ กฟผ. โดยชมรมพุทธศาสน์ ได้จัดสร้างหลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์จำลอง ขนาดหน้าตัก 39 นิ้ว จำนวน 2 องค์ ขึ้นน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อพระราชทานแก่ กฟผ. อัญเชิญไปประดิษฐาน ณ เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ โดยพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ได้ทรงพระกรุณาฯเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเททองหล่อ ณ บริเวณหน้าพระอุโบสถวัดนิเวศวิหารและสมเด็จฯพระสังฆราช ทรงเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในพิธีเมื่อวันเสาร์ที่ 3 เมษายน 2542 และได้อันเชิญไปประดิษฐาน ณ เขื่อนทั้งสองแห่งเป็นครั้งแรกใน กฟผ.ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม 2542 เป็นต้นมา

3. “สวนน้ำพระทัย” ตั้งอยู่ภายในบริเวณเขื่อน สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2530 เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจริญพระชนมพรรษา ครบ 5 รอบ ภายในสวนมีสิ่งที่น่าสนใจ คือ ประติมากรรมสำริด ธารน้ำพุ ซุ้มน้ำต้น และซุ้มกล้วยไม้พื้นเมือง โครงการสวนน้ำพระทัยเป็น 1 ใน 3 โครงการที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้รับอนุมัติให้ใช้ ตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2530

4. “อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ” เป็นอาคารพิพิธภัณฑ์ที่จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2542 โดยแบ่งพื้นที่เป็นส่วนที่ 1 จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับการก่อสร้างเขื่อนภูมิพล, ส่วนที่ 2 จัดแสดงนิทรรศการเรื่องราวขององค์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ กับบทบาทการพัฒนาแหล่งน้ำ และส่วนที่ 3 จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับ "สายอากาศพระราชทาน" ซึ่งบอกเล่าถึงความเป็นมาของสายอากาศพระราชทาน และพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระบาทสมเด็จพระองค์ท่านที่ทรงมีต่อการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยในเรื่องสายอากาศ ส่วนบนชั้นลอยภายในอาคาร เก็บรวบรวมหนังสือเกี่ยวกับพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และมีหนังสือสารานุกรมไทยในแต่ละภาค โดยมีมุมให้สามารถนั่งอ่านหนังสือ พร้อมทั้งมีแผ่นซีดีรอม และเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาหาข้อมูลการก่อสร้างเขื่อนภูมิพลได้

5. “ต้นไม้ของพ่อ” (ต้นสักทรงปลูก) วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2513 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินออก ณ บริเวณที่ประทับแรมเขื่อนภูมิพล พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทรงปลูกต้นสัก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงปลูกต้นราชพฤกษ์ ณ บริเวณสวนดอก ซึ่งเดิมเป็นสวนดอกไม้ที่มีความสวยงาม และเป็นพื้นที่เพาะพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับต่างๆ

6. “โรงไฟฟ้าเขื่อนภูมิพล” เบื้องหลังการผลิตกระแสไฟฟ้าที่ทำให้เรามีแสงสว่างและพลังงานสำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า เปิดให้เข้าชมได้โดยต้องทำหนังสือขออนุญาตล่วงหน้านะจ๊ะ

7. “สะพาน 50 ปี” (สะพานหน้าโรงไฟฟ้า) เป็นสะพานที่สร้างขึ้นพร้อมกับการสร้างเขื่อนภูมิพลในช่วงปี พ.ศ. 2500 เพื่อเชื่อมเส้นทาง 2 ฟากฝั่งแม่น้ำปิงเข้าด้วยกัน เพื่อใช้เป็นเส้นทางในการเดินทาง/ขนย้ายวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เข้าไปยังพื้นที่ก่อสร้างเขื่อน เป็นสะพานปูนที่มีโครงสร้างเหล็ก สามารถมองเห็นภาพตัวเขื่อนและโรงไฟฟ้าแบบ Panorama ได้

8. “สะพานปิงพิพรรธน์” เขื่อนภูมิพล สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2514 แทนสะพานไม้เดิมที่มีขนาดเล็ก สะพานมีลักษณะคล้ายสะพานแขวน แต่มี 70 ข้อเป็นโครงเหล็ก สร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2516 เดิมทาด้วยสีเขียว จึงเรียกว่าสะพานเขียว สมเด็จย่าทรงพิธีเปิดเมื่อปี พ.ศ. 2522 ต่อมาได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น สะพานปิงพิพรรธน์ สะพานปิงพิพรรธน์เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ สองฝั่งลำน้ำปิงเหนืออ่างเก็บน้ำ เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีโอกาสได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด

9. “หาดหัวหิน” ริมเขื่อนแม่ปิงตอนล่าง เสน่ห์แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากมาพักผ่อน รับประทานอาหารอร่อย ริมหาดทรายสวย ใกล้เขื่อนแม่ปิงตอนล่าง... โดยชายหาดได้เกิดจากการปรับปรุงภูมิทัศน์ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ในช่วงครบรอบ 50 ปีเขื่อนภูมิพล ปี พ.ศ.2557

10. “เขื่อนแม่ปิงตอนล่าง” เป็นเขื่อนขนาดเล็กสร้างกั้นแม่น้ำปิงห่างจากเขื่อนภูมิพลมาทางด้านท้ายน้ำ 5 กิโลเมตร ก่อให้เกิดอ่างเก็บน้ำแม่ปิงตอนล่าง ตัวเขื่อนประกอบด้วยโครงสร้างใหญ่ 2 ส่วนติดกัน คือส่วนที่เป็นคอนกรีตซึ่งประกอบด้วยอาคารระบายน้ำกับส่วนที่เป็นเขื่อนดินแกนดินเหนียวปิดทับด้วยหินทิ้ง ยาว 200 เมตร ความกว้างสันเขื่อน 10 เมตร เขื่อนแม่ปิงตอนล่างทำหน้าที่กักเก็บน้ำจากการปล่อยของเขื่อนภูมิพลเพื่อสูบกลับและกักเก็บไว้รอการระบายต่อไป ตามความต้องการของประชาชน

และสุดท้ายที่จะเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 17 พ.ค.62 นี้ “อาคารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน” เป็นพลับพลาที่ประทับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินเขื่อนภูมิพลครั้งแรก พ.ศ.2501 ปัจจุบันเปิดเป็นอาคารนิทรรศการ