สุโขทัย สโลว์ไลฟ์

มาเที่ยวสุโขทัยอย่ามาแค่..อุทยานประวัติศาสตร์ฯ น๊า!!!

ลองมาชิมข้าวเปิ๊บอาหารเลื่องชื่อเมืองสุโขทัย มาเซลฟี่เช็คอินบนสะพานไม้ไผ่กลางทุ่งนาที่ “บ้านนาต้นจั่น”

ชิมกาแฟคั่วมือ “ทิซา” ที่บ้านห้วยตม

พักโฮมเสตย์พรีเมี่ยม “บ้านมะขวิดโฮมสเตย์” ชม “ผ้าลายอย่าง” ในพิพิธภัณฑ์ผ้าทอผลงานสะสมของเจ้าของโฮมสเตย์

เช้าไป “ตักบาตรสะพานบุญรับอรุณสุโขทัย” ณ วัดตระพังทอง

แล้วไปนั่งรถคอกหมูยานพาหนะดั้งเดิมชาวสุโขทัย เที่ยวชมวิถีชีวิตแบบสุโขทั๊ย..สุโขทัยกันที่ “ชุมชนรอบรั้วเมืองพระร่วง” กันบ้างนะจ๊ะ...

“บ้านนาต้นจั่น” ตั้งอยู่ในตำบลบ้านตึก อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย เป็นชุมชนเล็กๆ มีต้นจั่นขึ้นอยู่มากมาย ชาวบ้านประกอบอาชีพทำนา ทำสวนผลไม้ ทอผ้า จักสาน และงานหัตถกรรมตอไม้ เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเรียนรู้วิถีชีวิตของคนในชุมชน สัมผัสกับธรรมชาติแบบครบวงจร

จุดแรกที่นักท่องเที่ยวต้องแวะเมื่อมาเที่ยวบ้านนาต้นจั่นคือศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ที่นี่เป็นร้านอาหาร ศูนย์เรียนรู้การทำผ้าหมักโคลน ร้านขายผลิตภัณฑ์ชุมชน และเป็นจุดติดต่อไกด์นำเที่ยวตามจุดต่างๆ

“ข้าวเปิ๊บ” อาหารเลื่องชื่อของที่นี่เค้าแหล่ะจ้า.. ใครมาเที่ยวที่นี่แล้วไม่ได้ลิ้มลองนี่ถือว่ามาไม่ถึงเลยนะ นอกจากข้าวเปิ๊บสูตรดั้งเดิมแล้วเค้ายังดัดแปลงไปอีกหลายเมนู เช่น ข้าวเปิ๊บทะเล ข้าวเปิ๊บสุกี้ นอกจากนี้ยังมีอาหารพื้นเมืองอีกหลายอย่างนะ เช่น เมี่ยง ข้าวพันพริก ต้องลองมาชิมกัน

ที่นี่เค้ามีบริการรถอีแต๊กนำเที่ยว หรือจะเช่าจักรยานปั่นเที่ยวชมก็ได้นะแล้วแต่ชอบ

สะพานไม้ไผ่กลางทุ่งนา ถือเป็นหนึ่งในจุดที่เป็นแลนด์มาร์คของบ้านนาต้นจั่น ช่วงเดือน ส.ค.-ต.ค. เป็นช่วงเวลาที่ชาวบ้านทำนา ถ้าได้มาเที่ยวช่วงเวลานี้บรรยากาศฟินๆอย่างที่เห็น

รายละเอียดข้อมูลติดต่อ ชุมชนบ้านนาต้นจั่น โทร 088 495 7738 089 885-1639

จากบ้านนาต้นจั่นมาอีกราวๆ 20กิโลเมตร เรามาถึง “บ้านห้วยตม” มาชิมกาแฟคั่วมือ “ทิซา” กาแฟที่นี่เป็นพันธุ์โรบัสต้า ปลูกแซมในสวนทุเรียนและลองกอง มีรสชาติเป็นอัตลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือน กลุ่มแปรรูปการเกษตรบ้านห้วยตม จึงแปรรูปทำเป็นกาแฟสด ภายใต้เครื่องหมายการค้าหรือแบรนด์ “ห้วยตม” และ”ทิซา”(Thisa) เป็นสินค้าสร้างรายได้ให้กับชุมชน

อาชีพหลักของชุมชนบ้านห้วยตมนั้นคืออาชีพการทำสวนทุเรียน ส่วนใหญ่เป็นพันธุ์หมอนทอง ส่วนพันธุ์อื่นก็มีบ้าง อาทิ หลิน-หลงลับแล ชะนี พวงมณีเป็นต้น คณะเรามาเที่ยวในช่างนี้เลยได้มีโอกาสชิม หมอนทองบ้านห้วยตม รสชาติอร่อยดีไม่หวานมากแต่มีความมัน นอกจากนี้ยังได้ชิมทุเรียนเชื่อมอีกด้วย

กาแฟคั่วมือ by Thisa บ้านห้วยตม ที่อยู่: บ้านห้วยตม ตำบลบ้านตึก อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัยโทรศัพท์: 098 556 5829

“บ้านมะขวิดโฮมสเตย์” ที่อยู่ ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองสุโขทัย สุโขทัย โฮมสเตย์พรีเมี่ยมที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นแบบไทยๆ

ภายในบ้านมะขวิดโฮมสเตย์ มีพิพิธภัณฑ์ผ้าทอผลงานสะสมของเจ้าของโฮมสเตย์ เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องย่ามที่ให้เข้าชมได้ฟรี ใครดูละครออเจ้าคงจำ “ผ้าลายอย่าง” ที่นี่มีให้ดูนะจับต้องได้ด้วยไม่ได้อยู่แค่ในตู้ บางชิ้นก็ขายนะจ๊ะ

ช่วงเช้าจะมีพระผ่านหน้าโฮมสเตย์ นักท่องเที่ยวมารอใส่บาตรได้นะจ๊ะ

หลังจากใส่บาตรที่หน้าโฮมสเตย์ เรารีบเดินทางมายัง “วัดตระพังทอง” ใช้เวลาประมาณ 10นาที เพื่อมาชมบรรยากาศ “ใส่บาตรสะพานบุญ รับอรุณสุโขทัย” ช่วงเช้าพระวัดตระพังทองจะเดินออกจากวัดโดยใช้สะพานด้านหน้าวัด จะมีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวมารอใส่บาตรกัน เป็นภาพบรรยากาศที่สวยงามมากๆ

จากนั้นเราก็มาเดินชมตลาดวัดตระพังทอง เป็นตลาดเช้าที่อยู่ภายในวัดตระพังทองชมวิถีชีวิตชาวสุโขทัยกัน

กลับมาที่บ้านมะขวิดโฮมสเตย์ อาหารเช้าพร้อมรอเสริฟเราอยู่แล้ว เป็นอาหารที่เรียบง่ายแต่อยู่ในภาชนะที่หรูหราแบบไทยๆ นั่งห้อยขากินอาหารเช้าริมทุ่งนา ฟิน!! อ้อ..กาแฟดริปที่นี่อร่อยมากกก ถ้าไม่ได้มาพักแวะเข้ามาจิบกาแฟชมบรรยากาศทุ่งนาก็ได้นะจ๊ะ

หลังทานอาหารเช้าเราก็มาถ่ายรูปเล่นในพิพิธภัณฑ์ผ้าทอ เจ้าของบ้านมะขวิดโฮมสเตย์ใจดีให้เรายืมผ้ามานุ่งด้วย เลยได้ภาพสวยงามอย่างที่เห็น

นี่แหล่ะครับหน้าตา “นั่งรถคอกหมู” ยานพาหนะดั้งเดิมชาวสุโขทัย ที่จะพาเราเที่ยว “ชุมชนรอบรั้วเมืองพระร่วง”

จุดแรกที่เรามากันคือ “บ้านพระพิมพ์ลักษมณศิลป์” มาทำกิจกรรมการทำพระพิมพ์ดินเผาเมืองสุโขทัย ก่อนอื่นเราก็มาชมพระพิมพ์ในหอศิลปะพระพิมพ์ โดยพี่กบ(คุณณรงค์ชัย โตอินทร์) เล่าให้เราฟังว่าที่นี่มีพิมพ์พระมากถึง 850 พิมพ์ โดยในสมัยโบราณมีความเชื่อว่าการพระพิมพ์แล้วนำไปใส่ไว้ในองค์เจดีย์ เป็นการดำรงพุทธศาสนาและหวังว่าผลบุญจะให้ได้ไปเกิดในยุคพระศรีอารยเมตตรัย

จากนั้นเราก็มาลงมือทำพระพิมพ์ด้วยตนเอง โดยการนำดินอัดลงไปในแบบพิมพ์ ตัดส่วนที่เกินออกจากนั้นก็สลักชื่อไว้ที่ด้านหลัง เรียบร้อยแล้วก็แกะออกจากแบบพิมพ์

เสร็จแล้วพระหนูสวยไม๊ค่ะ!!

ขั้นตอนต่อไปคือการนำพระพิมพ์ไปเผา ถ้านักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวแบบเต็มโปรแกรมคือพักโฮมเสตย์ของทางชุมชนด้วยก็จะได้รับพระของตัวเองในวันรุ่งขึ้น แต่เราไม่ได้พักค้างทางชุมชนก็เลยจะจัดส่งไปให้เราภายหลัง

จากนั้นเราก็มาทดสอบความแม่นของการยิ่งธนูแบบโบราณ โดยผู้สอนคือพี่กบคนเดิม ลองดูแล้วไม่ง่ายเลย นึกถึงคนสมัยก่อนทำสงครามใช้ธนูเป็นอาวุธ บรรพบุรุษเราเก่งจริงๆ

สุดท้ายพี่กบสาธิตวิธีจุดไปแบบโบราณ วิธีการคือใช้หินฟันม้ากะเทาะกับเหล็กให้ประกายไฟไปติดที่นุ่นจากนั้นก็เอานุ่นที่ติดไฟมาต่อที่ฟางข้าว พี่กบใช้เวลาแป๊ปเดียว แต่พวกเราลองกันแล้วไม่มีใครทำสำเร็จเลย.555

บ้านพระพิมพ์ลักษมณศิลป์ ที่อยู่: บ้านเลขที่ 51/7 หมู่ 8 บ้านพระเชตุพน ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย ติดต่อ: คุณณรงค์ชัย โตอินทร์ (พี่กบ) คุณญาณภัทร์ โตอินทร์ (พี่แก้ม) 089-6436219, 081-1970535

จากบ้านพระพิมพ์ลักษมณศิลป์เรามาต่อกันที่ ชุมชนบ้านเมืองเก่า หมู่ที่ 3 ชมการสาธิตการทำ “ขนมแดกงา” คำว่า “แดก” ไม่ใช่เป็นคำหยาบนะจ๊ะ แต่หมายถึงการคลุก ขนมนี้จะทำด้วยข้าวเหนียวที่นึ่งสุกแล้วตำผสมกับงาจนได้เป็นเหนียว จังหวะนี้แหล่ะเป็นที่มาของคำว่า “แดกงา” หลังจากนั้นก็นำมาใส่ไส้ ที่ทำจากมะพร้าวอ่อนกวนกับน้ำตาลปึกปั้นเป็นลูกพอดีคำ แล้วนำไปคลุกกับงาดำอีกรอบก็เป็นอันได้ขนมแดกงาแสนอร่อย

จากขนมแดกงาเรามาชมการสาธิตการแกะสลักไม้ “นกคุ้ม” โดยหมู่บ้านนี้ที่มีการผลิตงานหัตถกรรมจากไม้มาอย่างยาวนานสืบทอดส่งต่อกันรุ่นต่อรุ่น สินค้าไม้แกะสลักไม้ เป็นของที่ระลึกที่นักท่องเที่ยวนิยมซื้อเป็นของฝาก โดยมีความเชื่อว่า “นกคุ้ม” เป็นสิ่งมงคล คุ้มครองทรัพย์สิน และบ้านเรือนให้ร่มเย็นเป็นสุข

เราปิดท้ายการท่องเที่ยวชุมชนรอบรั้วเมืองพระร่วง ด้วยการรับประทานอาหารกลางวัน ที่เกาะกลางน้ำวัดตระพังทอง จริงๆแล้วเส้นทางท่องเที่ยวชุมชนรอบรั้วเมืองพระร่วงยังมีจุดที่ให้ไปเยี่ยมชมรวมถึงกิจกรรมเรียนรู้วิถีถิ่นอีกหลายอย่าง ด้วยเวลาน้อยทำให้ไปเที่ยวได้ไม่ครบ ใครสนใจก็ลองติดสอบถามที่เบอร์โทรศัพท์ 0801164141 พี่หน่อง ชมรมท่องเที่ยวเมืองเก่า กันดูนะจ๊ะ ทริปนี้จบลงตรงนี้จ้า...