มหัศจรรย์..สุโขทัย เมืองมรดกโลก

ไปเที่ยวเส้นทางตามรอยประวัติศาสตร์เมืองสุโขทัย กันจ้า...

ไปชมความยิ่งใหญ่งดงามของ “อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย” และ “อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย”

สักการะพระพุทธสิริมารวิชัย พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองสุโขทัย ณ “หอพระพุทธสิริมารวิชัย”

ชม “พระอจนะ” ตำนานพระพูดได้ “วัดศรีชุม”

ร่วมเวียนเทียนและชม Mini Light and Sound ณ “เจดีย์วัดช้างล้อม”

ตักบาตรยามเช้า ณ สะพานบุญ “วัดตระพังทอง”

กิจกรรมทำพระเครื่องดินเผาแบบโบราณ “บ้านพระพิมพ์ลักษมณศิลป์”

“ย่านเครื่องเงินเครื่องทอง” ชมการทำเครื่องทองลวดลายโบราณที่ได้ต้นแบบจากลวดลายปูนปั้นวัดนางพญา

ชมช้อปผ้าโบราณหาดเสี้ยว “บ้านสุนทรีผ้าไทย” ชมงานสังคโลก “ร้านสุเทพสังคโลก” และปิดท้ายด้วยการเดินถ่ายรูปเล่นชิลๆในฟาร์มกล้วยไม้ “โครงการเกษตรอินทรีย์สนามบินสุโขทัย”

ทริปดีๆอย่างนี้เกิดจากธนาคารกรุงเทพร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดขึ้นเพื่อตอบแทนลูกค้าที่ถือบัตรเครดิตท่องเที่ยวธนาคารกรุงเทพ

พร้อมแล้วไปชมภาพสวยๆกันได้เลยจ้า...

จุดหมายแรกของทริปนี้คือการมาสักการะพระพุทธสิริมารวิชัย ณ “หอพระพุทธสิริมารวิชัย”

“พระพุทธสิริมารวิชัย” เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ศิลปะสุโขทัย สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นระหว่างพุทธศวรรษที่ 19-20 เพื่อประดิษฐานในอุโบสถ หรือวิหารของวัดสำคัญวัดใดวัดหนึ่งในเมืองสุโขทัย พุทธศักราช 2442 ได้ถูกนำมาประดิษฐาน ณ วัดราชธานี ประชาชนชาวสุโขทัยพากันเรียกว่า "หลวงพ่องาม" หรือ "หลวงพ่อสุโขทัย"

พุทธศักราช 2511 เกิดเหตุเพลงไหม้ครั้งใหญ่ในจังหวัดสุโขทัย เมื่อเพลิงสงบลงจึงพบว่า "หลวงพ่องาม" ถูกเพลิงเผาผลาญแตกออกเป็นชิ้นๆ จึงได้นำไปเก็บรักษาที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง ต่อมาในปีพุทธศักราช 2535 ได้มีการบูรณะซ่อมแซมพระพุทธรูปสำริดสมัยสุโขทัย โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมจนแล้วเสร็จในเดือนสิงหาคม 2535

เมื่อการบูรณะซ่อมแซมพระพุทธสิริมารวิชัยแล้วเสร็จ ได้ดำเนินการสร้างอาคารเพื่อประดิษฐานพระพุทธสิริมารวิชัย โดยแนวคิดในการออกแบบกำหนดให้สร้างเป็นอาคารตามรูปแบบสถาปัตยกรรมสุโขทัย เพื่อให้สอดคล้องกับพระพุทธสิริมารวิชัยซึ่งเป็นพุทธศิลป์แบบสุโขทัย และเนื่องจากมิได้สร้างขึ้นเป็นส่วนของวัดใดวัดหนึ่งจึงใช้ชื่อว่า "หอพระพุทธสิริมารวิชัย"

ผนังทั้งสี่ด้านตกแต่งด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนัง โดยกำหนดให้ผนังด้านทิศตะวันตก ซึ่งเป็นด้านหน้าของหอพระเป็นภาพพุทธประวัติ ตอนมารวิชัย ผนังด้านทิศตะวันออกเป็นภาพไตรภูมิ ส่วนผนังด้านข้างสองด้านนั้น ด้านทิศใต้เป็นภาพเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ในสมัยสุโขทัย ส่วนด้านทิศเหนือ เป็นภาพเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ ในสมัยรัตนโกสินทร์

“วัดศรีชุม” เป็นโบราณสถานแห่งหนึ่งในเขตอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือนอกกำแพงเมืองเดิม เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ซึ่งมีนามว่า "พระอจนะ" องค์พระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ในมณฑป ซึ่งปัจจุบันยอดพระมณฑปได้พังทลายหมดแล้ว เหลือแต่เพียงผนังกำแพงโดยรอบ ผนังด้านหน้าเปิดเป็นช่องเห็นพระพักตร์พระพุทธรูปงดงามแต่ไกล

ตำนาน “พระพูดได้” ในสมัยอยุธยา เมื่อครั้งสมเด็จสมเด็จพระนเรศวรมหาราช นำทัพเสด็จมาปราบเมืองเชลียง ครั้งนั้นเหล่าทหารไม่มีกำลังใจในการรบ สมเด็จพระนเรศวรจึงได้วางแผนสร้างกำลังใจให้กับทหาร โดยการให้ทหารคนหนึ่งปีนบันไดขึ้นไปในกำแพงทางด้านหลังองค์พระ และพูดให้กำลังใจแก่เหล่าทหาร ทำให้ทหารเกิดกำลังใจที่จะต่อสู้ต่อไป ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดตำนานพระพูดได้ที่วัดศรีชุมแห่งนี้

“บ้านพระพิมพ์ลักษมณศิลป์” เป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์เล็กๆ โดยพี่กบ (คุณณรงค์ชัย โตอินทร์) เล่าให้เราฟังว่าที่นี่มีพิมพ์พระมากถึง 850 พิมพ์ โดยในสมัยโบราณมีความเชื่อว่าการพระพิมพ์แล้วนำไปใส่ไว้ในองค์เจดีย์ เป็นการดำรงพุทธศาสนาและหวังว่าผลบุญจะให้ได้ไปเกิดในยุคพระศรีอารยเมตตรัย

จากนั้นเราก็มาทำกิจกรรมทำพระพิมพ์ดินเผาเมืองสุโขทัย วิธีทำง่ายๆ โดยการนำดินอัดลงไปในแบบพิมพ์ ตัดส่วนที่เกินออกจากนั้นก็สลักชื่อไว้ที่ด้านหลัง แล้วก็แกะออกจากแบบพิมพ์เป็นอันเรียบร้อย หลังจากนี้พี่กบก็จะเอาพระไปเผา(ซึ่งเราได้รับพระที่เราปั้นในวันกลับ)

จากบ้านพระพิมพ์ลักษมณศิลป์เราไปนั่งรถรางชม “อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย”

“อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย” เป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ของเมืองไทย ที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็น “มรดกโลก” ในปี 2534

มีโบราณสถานที่แสดงถึงร่องรอยของความเจริญรุ่งเรืองหลงเหลือให้เห็น กระจายอยู่ทั้งภายในและภายนอกกำแพงเมือง โดยมีจำนวนรวมทั้งสิ้นประมาณ 193 แห่ง โดยจำแนกเป็นโบราณสถานภายในกำแพงเมือง เช่น วัดมหาธาตุ วัดสระศรี วัดตระพังเงิน วัดศรีสวาย ฯลฯ จำนวน 60 แห่ง และที่เหลือกระจายอยู่นอกกำแพงเมือง

ช่วงเย็นมีงานเลี้ยงในธีม “มนต์รักลูกทุ่ง” แต่ละคนแต่งตัวสุดเหวี่ยง งานนี้อาหารการกินเพียบ การแสดงมันส์ๆตลอดงาน ที่สำคัญทั้งBBLและททท. ขนของรางวัลมาแจกเพียบ

จุดหมายแรกของวันที่2 เรามากันที่ “อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย” ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของโลก ร่วมกับอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรใน พ.ศ.2534 เนื่องจากหลักฐานที่ปรากฏแสดงให้เห็นถึงผลงานทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น นับเป็นตัวแทนของศิลปกรรมไทยยุคแรกและเป็นต้นกำเนิดของการสร้างประเทศ

“วัดช้างล้อม” อยู่ภายในกำแพงเมืองศรีสัชนาลัย เป็นเจดีย์ประธานทรงลังกา ที่ฐานเจดีย์มีช้างปูนปั้นยืนหันหลังชนผนังเจดีย์อยู่โดยรอบ จำนวน 39 เชือก วัดช้างล้อมที่เมืองศรีสัชนาลัยนี้ ช้างจะมีลักษณะที่เด่นกว่าช้างปูนปั้นที่วัดอื่น ๆ คือ ยืนเต็มตัวแยกออกจากผนัง มีขนาดสูงใหญ่กว่าช้างจริง และด้านหน้ามีพุ่มดอกบัวปูนปั้นประดับไว้

“วัดนางพญา” เป็นวัดที่มีลวดลายปูนปั้นงดงามมาก ปรากฏอยู่บนซากผนังวิหารด้านตะวันตกเฉียงเหนือ

จากนั้นเรามาชมช้อปผ้าโบราณหาดเสี้ยว “บ้านสุนทรีผ้าไทย” ผ้าทอมือโบราณลายตีนจก นับเป็นภูมิปัญญาของชาวสุโขทัย ซึ่งกระบวนการทอต้องใช้ความชำนาญและความอดทน เพราะการทอแต่ละผืนกินเวลาเป็นแรมเดือน

คุณป้าสุนทรีเจ้าของร้านโชว์ผ้าลายตีนจกโบราณ ราคาผืนละแสนสี่

ชมการทำเครื่องทองที่ “ร้านบ้านทองสมสมัย” ซึ่งยังคงอนุรักษ์ลวดลายโบราณที่ได้ต้นแบบจากลวดลายปูนปั้นวัดนางพญา

ช่วงเย็นวันที่2ของทริป มีกิจกรรมพิเศษที่จัดให้คณะโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คือ การเวียนเทียนและ การแสดง Mini Light and Sound ณ “เจดีย์วัดช้างล้อม” ภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

กิจกรรมตักบาตรยามเช้า ณ สะพานบุญ “วัดตระพังทอง”

จากนั้นมาชม “ร้านสุเทพสังคโลก” แห่งผลิตเครื่องสังคโลก งานเครื่องปั้นดินเผาที่มีชื่อเสียงของสุโขทัย

และปิดท้ายด้วยการเดินถ่ายรูปเล่นชิลๆในฟาร์มกล้วยไม้ “โครงการเกษตรอินทรีย์สนามบินสุโขทัย”

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณธนาคารกรุงเทพและการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ที่จัดทริปนี้ขึ้นเพื่อตอบแทนลูกค้าที่ถือบัตรเครดิตท่องเที่ยวธนาคารกรุงเทพ “บัตรเดียวที่ให้อภิสิทธิ์คนไทย..เที่ยวคุ้มกว่าใคร”