30 แหล่งท่องเที่ยวใน 20 จังหวัดภาคอีสาน

ประมวลภาพ 30 แหล่งท่องเที่ยวใน 20 จังหวัดภาคอีสาน จากงานคาราวานพิชิต 20 จังหวัดภาคอีสาน โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

11วัน 10คืน กับระยะทางกว่า 3,500 กิโลเมตร ผ่านแหล่งท่องเที่ยวใหม่เอี่ยมอย่าง “สกายวอล์คเชียงคาน” จ.เลย “หอโหวด๑๐๑” หอชมเมืองของจังหวัดร้อยเอ็ดที่เตรียมจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการสิ้นปีนี้ และ “สะพานเชื่อมฮักตาดไฮ” สะพานไม้ไผ่ที่ทอดยาวอยู่ในอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำบอง จุดเช็คอินใหม่ของจังหวัดหนองบัวลำภู ฯลฯ

จุดท่องเที่ยวทางธรรมชาติอย่าง “น้ำตกตาดโตน” จ.ชัยภูมิ “จุดชมวิวพญากูปรี” จ.ศรีสะเกษ และชม “นกกระเรียนพันธ์ไทย” ที่ศูนย์อนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ จ.บุรีรัมย์ ฯลฯ

วัดวาอารามที่สวยงาม “วัดพระธาตุพนม” จ.นครพนม “วัดพระธาตุหนองบัว” จ.อุบลราชธานี “วัดไพรพัฒนา” จ.ศรีสะเกษ “วัดป่ากุง” จ.ร้อยเอ็ด ฯลฯ

แหล่งท่องเที่ยววิถีชุมชน ร่วมกิจกรรมแอดแวนเจอร์นั่งรถอีแต๊กตะลุยลำธารที่ “หมู่บ้านคีรีวงกต” จ.อุดรธานี ชมวิถีชีวิตที่สวยงามเรียบง่ายของชุมชน “บ้านวังน้ำมอก” จ.หนองคาย และ“บ้านห้องแซง” จ.ยโสธร ถ่ายรูปเก๋ๆกับสตรีทอาร์ตที่ “พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต” จ.บึงกาฬ สัมผัสธรรมชาติท้องทุ่งนาที่ “โฮมสเตย์นาภูคำ” ชุมชนบ้านนาหมอม้า จ.อำนาจเจริญ ฯลฯ

และอีกหลากหลายรูปแบบแหล่งท่องเที่ยวอย่าง ศาลเจ้าจีน “มูลนิธิสว่างดาวดึงส์ธรรม” จ.นครราชสีมา ปราสาทขอม “ปราสาทเปือยน้อย” จ.ขอนแก่น โบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาธอลิก “วัดสองคอน” จ.มุกดาหาร “สนามฟุตบอลช้างอารีนา” จ.บุรีรัมย์ และ “หอศิลป์เมืองกาฬสินธุ์” จ.กาฬสินธุ์ ฯลฯ

พร้อมแล้วไปชมภาพกันจ้า...

1. “มูลนิธิสว่างดาวดึงส์ธรรม” ต.หนองกะจะ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เป็นศาสนสถานที่รวมเทพเจ้า 3 นิกายของลัทธิเต๋า และพุทธศาสนา นิกายมหายาน ไว้ด้วยกันแห่งเดียวในโลก

2. “หลวงพ่อทวดเขาใหญ่” องค์ใหญ่ที่สุดในโลกมีความสูงถึง 111 เมตร ตั้งอยู่ภายในพุทธอุทยานอาณาจักรหลวงปู่ทวด ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

3. “ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. ลำตะคอง” อยู่ที่ ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพลังงานไฟฟ้า การผลิตไฟฟ้าจากพลังงานประเภทต่าง ๆ ทั้งจากเชื้อเพลิงฟอสซิล และพลังงานหมุนเวียน รวมถึงนวัตกรรมการผลิตไฟฟ้าที่ทันสมัยด้วยระบบ Wind Hydrogen Hybrid

4. “จุดชมวิวเขายายเที่ยง” อยู่บริเวณอ่างเก็บน้ำตอนบนที่เป็นส่วนหนึ่งของโรงไฟฟ้าลำตะคอง เป็นจุดชมวิว 360 องศา สามารถชมถนนมอเตอร์เวย์สายอีสาน กังหันลมยักษ์ วิวเขื่อนลำตะคอง และมีจักรยานให้เช่าปั่นเที่ยวรอบอ่างเก็บน้ำแบบเพลินๆ

5. “ชุมชนท่องเที่ยวบ้านด่านเกวียน” เป็นหมู่บ้านทำเครื่องปั้นดินเผาที่มีชื่ออยู่ใน ต.ด่านเกวียน อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ในอดีตชาวบ้านแถบนี้ได้นำดินจากสองฟากฝั่งลำน้ำมูล มาทำภาชนะใช้สอยต่างๆ ต่อมาได้ปรับเปลี่ยนมาผลิตเพื่อเป็นสินค้า จนปัจจุบันด่านเกวียนมีชื่อเสียงมากในฐานะที่เป็นแหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผาได้สวยงาม

6. “น้ำตกตาดโตน” ตั้งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติตาดโตน ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของชัยภูมิ เป็นน้ำตกที่สวยงามและมีน้ำไหลตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในหน้าฝนที่จะสวยงามมากๆ โดยพื้นที่ด้านบนของน้ำตกจะเป็นธารน้ำที่ไหลผ่านลานหิน บริเวณสองฝั่งจะร่มรื่นด้วยต้นไม้ เหมาะที่จะนั่งชิลชมธรรมชาติและเล่นน้ำ

7. “ปราสาทเปือยน้อย” อยู่ที่ ต.เปือยน้อย อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น เป็นปราสาทที่มีความสมบูรณ์และใหญ่ที่สุดในเขตอีสานตอนบน สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 16-17 ในยุคศิลปะขอมแบบปาปวนและแบบนครวัด ในช่วงวันเพ็ญเดือน5 ของทุกปีจะมีการจัดงานเฉลิมฉลองปราสาทเปือยน้อย ชื่องานบุญกู่ หรือ งานศิวะราตรีปุชะนียาลัยปราสาทเปือยน้อย

8. “สะพานเชื่อมฮักตาดไฮ” สะพานไม้ไผ่ที่ทอดยาวอยู่ในอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำบอง ต.โคกม่วง อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู เป็นจุดเช็กอินใหม่ของจังหวัดหนองบัวลำภู มาชมวิวพระอาทิตย์ตกที่แสนโรแมนติกและสัมผัสวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของผู้คนบ้านตาดไฮ

9. “สกายวอล์คเชียงคาน” แลนด์มาร์คแห่งใหม่เมืองเลย อยู่ที่ อ.เชียงคาน จ.เลย มีความสูงกว่าระดับแม่น้ำโขง 80 เมตร หรือเท่ากับตึก 30 ชั้น มีทางเดินพื้นกระจก 2 เมตร ความยาว 80 เมตร มองเห็นแม่น้ำเหืองที่ไหลผ่านมาบรรจบแม่น้ำโขง ที่กั้นพรมแดนไทย-ลาว และมีพระใหญ่ภูคกงิ้ว เป็นพระพุทธรูปปางลีลาประทานพร สูงกว่า 19 เมตร อยู่ด้านหลัง

10. “หมู่บ้านคีรีวงกต” แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ตั้งอยู่ที่ ต.นาแค อ.นายูง จ.อุดรธานี กิจกรรมแอดแวนเจอร์นั่งรถอีแต๊กตะลุยลำธาร วิถีการกิน-ข้าวป่า ท่ามกลางทิวเขาเขียวขจีของอุทยานแห่งชาติ น้ำโสม-นายูง

11. “บ้านวังน้ำมอก” เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเรียนรู้วัฒนธรรมวิถีชีวิต ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย เป็นหมู่บ้านในภาคอีสานที่มีทั้งวัฒนธรรมของล้านนาเชียงใหม่ และล้านช้างผสมผสานกัน

12. “พิพิธภัณฑ์ชุมชนมีชีวิต” ตั้งอยู่ในหมู่บ้านขี้เหล็กใหญ่ อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ หมู่บ้านท่องเที่ยวที่เงียบสงบโอบล้อมด้วยธรรมชาติและวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม สำหรับการสร้างเป็นหมู่บ้านสตรีทอาร์ต ผู้ริเริ่ม คือ คุณขาบ ฟู้ดสไตล์ลิสต์ชื่อดัง เจ้าของรางวัลเวทีระดับโลก ที่ตั้งใจกลับบ้านเกิดเพื่อพัฒนาชุมชนให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

13. “ศูนย์ศิลปาชีพกุดนาขาม” อยู่ในท้องที่บ้านกุดนาขาม ต.เจริญศิลป์ อ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร เป็นแหล่งผลิตศิลปหัตถกรรมเครื่องปั้นดินเผา การแกะสลักไม้ การทอผ้าไหม มีห้องแสดงการปั้นเขียนสี แสดงผลิตภัณฑ์ ฝีมือในการผลิต ออกแบบสวยงามมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

14. “พญาศรีสัตตนาคราช” ตั้งอยู่บนลานศรีสัตตนาคราช ริมฝั่งแม่น้ำโขง ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม จ.นครพนม เป็นองค์พญานาคทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดของภาคอีสาน หล่อด้วยทองเหลือง มีน้ำหนักรวม 9,000 กก. เป็นรูปพญานาคขดหาง 7 เศียร ประดิษฐานบนแท่นฐานแปด เหลี่ยม กว้าง 6 เมตร ความสูงทั้งหมดรวมฐาน 15 เมตร สามารถพ่นน้ำได้

15. “แต่งไทยใส่บาตรข้าวเหนียวริมแม่น้ำโขง” หน้าวัดมหาธาตุ จ.นครพนม

16. “วัดพระธาตุพนม” เป็นวัดพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ที่ ถนนชยางกูร ต.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม มีลักษณะเป็นเจดีย์รูปสี่เหลี่ยมจตุรัสก่อด้วยอิฐ กว้างด้านละ 12.33 เมตร สูง 53.6 เมตร

17. “โบสถ์คริสต์วัดสองคอน” หรือ สักการสถานพระมารดาแห่งมรณสักขีวัดสองคอน ตั้งอยู่ ณ บ้านสองคอน อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร โบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ที่มีชื่อเสียงในเรื่องความงดงามแปลกตาของตัวอาคาร เป็นโบสถ์คริสต์สร้างแบบสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ เคยได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่น จากสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ ปี 2539

18. “บ้านห้องแซง” ตั้งอยู่ใน ต.ห้องแซง อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวของชาวภูไท ที่ยังคงมนต์เสน่ห์ของวิถีชีวิตแบบชาวอีสาน เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของชาวภูไทห้องแซงคือ การนุ่งซิ่นผ้าฝ้ายผ้ามัดหมี่และใส่เสื้อย้อมครามมีผ้าสไบพาดไหล่สีขาวและแบบลายตาหมากรุกขายผ้าขาวม้าแต่ผืนเล็กกว่า

19. “โฮมสเตย์นาภูคำ” ชุมชนบ้านนาหมอม้า อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ มาสัมผัสธรรมชาติท้องทุ่งนา เรียนรู้วิถีชีวิตของชาวบ้านนาหมอม้า และถ่ายรูปบนสะพานไม้ที่ทอดยาวในทุ่งนา

20. “วัดพระธาตุหนองบัว” เป็นวัดในนิกายธรรมยุตที่สำคัญวัดหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ คือพระธาตุเจดีย์ศรีมหาโพธิ์ ที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ครบรอบ 25 ศตวรรษของพุทธศาสนาในปี พ.ศ.2500 โดยจำลองแบบมาจากเจดีย์ที่พุทธคยา ประเทศอินเดีย

21. “บ้านสังกัน” อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ

22. “วัดไพรพัฒนา” ที่อยู่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ วัดไพรพัฒนาเป็นที่พำนักของหลวงปู่สรวง นักบุญแห่งดินแดนอีสานใต้ พระผู้บำเพ็ญเพียรตามแนวเขตชายแดนไทย-กัมพูชา อันมีเมตตาบารมีช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากจนเป็นที่รักและศรัทธาของผู้คนทั่วไป จนเป็นที่เรียกขานกันว่า “เทวดาเดินดิน” ภายหลังจากที่หลวงปู่ละสังขารเมื่อปี 2542 สรีระสังขารของหลวงปู่ไม่เน่าเปื่อย ลูกศิษย์ได้นำไปบรรจุไว้ในโลงแก้ว เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้มากราบไหว้ขอพร และลอดใต้โลงแก้วเพื่อความเป็นสิริมงคล

23. “จุดชมวิวพญากรูปี” อยู่บนเทือกเขาพนมดงรักชายแดนไทย-กัมพูชา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ห่างจากจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำชายแดนไทย-กัมพูชา ประมาณ 4 กิโลเมตร สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ธรรมชาติของต้นน้ำห้วยสำราญ กั้นระหว่างจังหวัดศรีสะเกษ-สุรินทร์

24. “Elephant World” อยู่ติดกับศูนย์คชศึกษา จ.สุรินทร์ ที่บ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเกี่ยวกับช้างแบบครบวงจร รวมทั้งจะมีช้างอยู่ที่นี่มากที่สุดในโลกด้วย

25. “สนามฟุตบอลช้างอารีนา” มีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า ธันเดอร์คาสเซิลสเตเดียม เป็นสนามกีฬาที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตั้งอยู่ที่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์

26. “ศูนย์อนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำและนกกระเรียนพันธุ์ไทย” ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอ่างเก็บน้ำห้วยจรเข้มาก จ.บุรีรัมย์ เป็นแหล่งเรียนรู้แห่งใหม่ของจังหวัดบุรีรัมย์ และเป็นการถ่ายทอดความสำเร็จในด้านการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำและนกกระเรียนพันธุ์ไทย ที่มีความเชื่อมโยงกับวิถีชุมชน และองค์ความรู้ท้องถิ่นที่สอดคล้องกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติสัตว์ป่าและสิ่งแวดล้อม

27. “วัดป่ากุง” หรือวัดประชาคมวนาราม ตั้งอยู่ใน อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด มีเจดีย์หินทราย เป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ทำจากหินทรายธรรมชาติ จำลองแบบมาจากบุโรพุทโธ ประเทศอินโดนีเซีย

28. “หอโหวด ๑๐๑” แลนด์มาร์คใหม่เมืองร้อยเอ็ด ตั้งอยู่ที่สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ร้อยเอ็ด อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด แลนด์มาร์คแห่งใหม่ ที่ความสูงโดยรวม 101 เมตร ชั้น 34 จะเป็นส่วนชมวิว แบบเอาท์ดอร์ 360 องศา และมีส่วนบริเวณที่เป็นพื้นกระจก ให้นักท่องเที่ยวได้มาถ่ายรูปในมุมที่หวาดเสียว

29. “สะพานไม้แกดำ” สะพานไม้เก่าแก่ที่ทอดยาวข้ามอ่างเก็บน้ำหนองแกดำ ที่มีเนื้อที่ประมาณ 1,000 ไร่ ครอบคลุม 3 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านแกดำ บ้านหัวขัว บ้านโพธิ์ศรี ในอำเภอแกดำ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่ unseen อีกแห่งหนึ่งของจังหวัดมหาสารคาม

30. “พิพิธภัณฑ์ของดีเมืองกาฬสินธุ์ หอศิลป์” แหล่งเรียนรู้ บอกเล่าเรื่องราวของวิถีชีวิตคนกาฬสินธุ์ ถ่ายทอดและสร้างสรรค์งานด้านศิลปะ ศาสนา วัฒนธรรม อยู่ภายในศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ (หลังเก่า) มีศิลปะภาพวาดจากศิลปินชื่อดัง ศิลปินชาวกาฬสินธุ์ ภาพวาด 3 มิติ รูปปั้นงานศิลป์ ที่สื่อออกถึงศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี และสิ่งดีๆ ของจังหวัดกาฬสินธุ์