ฟินฟิน...สุพรรณบุรี

“สุพรรณบุรี” จังหวัดที่อยู่ใกล้กรุงเทพแค่ปากซอย มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายทั้งธรรมชาติ วัดวาอารามที่สวยงาม ร้านกาแฟเก๋ๆ พิพิธภัณฑ์ต่างๆ เราไปฟินสุพรรณบุรีกันเถอะ...

ไฮไลท์ของการไปเที่ยวครั้งนี้คือการไปแคมป์ปิ้งริม “อ่างเก็บน้ำลำตะเพิน” บรรยากาศฟินมากขอบอก...

อีกหนึ่งไฮไลท์คือการปั่นจักรยานไปชมวิวพระอาทิตย์ตกกลางทุ่งนา นอนโฮมเตย์กลางทุ่ง “สวนลุงชาญ”

สายบุญเราไปชมหลวงพ่ออู่ทอง “พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ” พระแกะสลักบนหน้าผาหินใหญ่ที่สุดในประเทศไทย / กราบหลวงพ่อโต “วัดป่าเลไลยก์” / สักการะรอยพระพุทธบาท “วัดเขาพระศรีสรรญเพชรฯ” และไปชม “หลวงพ่อขุนด่าน” วัดดงเสลา ที่ผู้คนมาขอพรด้วยการถวายดาบ

ไปชม “หมู่บ้านมังกรสวรรค์” และนั่งรถรางชมแปลงนาสาธิตที่ “นาเฮียใช้”

ชมธรรมจักรศิลาวัตถุโบราณชิ้นสำคัญของ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง” และชมประติมากรรมสำริดที่มีความยาวกว่า 88 เมตร ยาวที่สุดในประเทศไทย “อาคารประติมากรรมขุนหลวงพะงั่ว”

จิบเครื่องดื่มเย็นๆ “A Life Café” คาเฟ่สไตล์ยุโรป ปิดท้ายด้วยการเดินหาของฝาก “ตลาดร้อยปีสามชุก”

หลากหลายมากๆ ป่ะเราไปฟินสุพรรณบุรีกัน....

สุพรรณใกล้ๆ เราออกจากกรุงเทพสายๆ พักเดียวก็มาถึง “พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ”

"พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ" หรือหลวงพ่ออู่ทอง เป็นพระพุทธรูปแกะสลักบนหน้าผาหินใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีความสูง 35 เมตร หน้าตักกว้าง 25 เมตร

จากนั้นเราไปกินอาหารกลางวันกันที่ครัวลุงบิน

อิ่มท้องกันแล้วเรามาต่อกันที่ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง” สถานที่รวบรวมศิลปะโบราณวัตถุที่ขุดค้นพบในดินแดนแถบสุพรรณบุรี หนึ่งในวัตถุโบราณชิ้นสำคัญของที่นี่คือ “ธรรมจักรศิลา”

โมเดลพื้นที่เมืองอู่ทองโบราณ มีเสียงบรรยายและแมพปิ้งด้วยแสงสีสวยๆ เพิ่งเสร็จใหม่ๆ จนท.พิพิธภัณฑ์ บอกว่าเราเป็น นนท. กลุ่มแรกที่ได้มาชมเลยทีเดียว

“วัดเขาพระศรีสรรเพชญาราม” ตั้งอยู่บริเวณยอดเขาพระ แต่เดิมชาวบ้านเรียกว่า “วัดเขาพระ” เนื่องจากมีพระพุทธไสยาสน์ประดิษฐานอยู่ภายในเพิงผาทางด้านทิศตะวันออก และมาเปลี่ยนชื่อเมื่อปี พ.ศ.2509 บนยอดเขามีพระมณฑปประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลอง แกะสลักจากหินเขียวธรรมชาติ

แวะจิบเครื่องดื่มเย็นๆ “A Life Café” ก่อนเข้าที่พัก

ที่พักของเราในวันแรกสวนลุงชาญ

เก็บข้าวของเรียบร้อยเราก็ไปปั่นจักรยานชมทุ่งนากัน...

บรรยากาศยามเย็นสวยๆ กับ อาหารอร่อยๆ สวนลุงชาญ

เช้านี้เรามากันที่ “วัดป่าเลไลยก์” เป็นที่แรก วัดป่าเลไลยก์เป็นวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นวัดเก่าแก่ สันนิษฐานว่ามีอายุราว 1200 ปี

หลวงพ่อโต เป็นพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ ศิลปะสมัยอู่ทอง-สุพรรณภูมิ เดิมเชื่อกันว่าคงเป็นพระพุทธรูปปางปฐมเทศนาสร้างไว้กลางแจ้ง ต่อมาได้มีการบูรณะซ่อมแซมใหม่และทำเป็นปางป่าเลไลยก์ ดังที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ศาลหลักเมืองและหมู่บ้านมังกรสวรรค์ หมู่บ้านลี่เจียงจำลอง

“ศูนย์เรียนรู้วิถีชีวิตและจิตวิญญาณชาวนาไทย” หรือ นาเฮียใช้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รวบรวมเรื่องราวและองค์ความรู้ต่างๆ ในวิถีของเกษตรกร ให้เราได้มาศึกษาและเรียนรู้กัน

สถานที่น่าสนใจในนาเฮียใช้ เช่น แปลงนาสาธิต, เรือนศูนย์รวมใจไทยทั้งชาติ, เรือนวิถีชีวิตชาวนาไทยในอดีต, หอเตือนภัยชาวนา ฯลฯ

รับประทานอาหารกลางวัน ณ “ครัวซ้อเกลียว” ภายในนาเฮียใช้

“อาคารประติมากรรมขุนหลวงพะงั่วและประวัติศาสตร์สุพรรณบุรี” ภายในจัดแสดงพระราชประวัติของขุนหลวงพะงั่ว ปฐมกษัตริย์รัฐสุพรรณภูมิ และบันทึกประวัติศาสตร์เมืองสุพรรณบุรีตั้งแต่ยุคแรกจนถึงยุคปัจจุบันผ่านภาพประติมากรรมสำริดที่มีความยาวกว่า 88 เมตร ถือว่ายาวมากที่สุดในประเทศไทย

แล้วเราก็มาถึงอ่างเก็บน้ำลำตะเพินบริเวณ “CAMP MORE” ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดจุดหนึ่งของลำตะเพิน

“ไร่คงเดือน” คือที่พักของเรา มัวแต่ถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกเลยมาถึงที่พักค่ำ หลังกินข้าวเย็นเราก็มาชมบรรยากาศริมอ่างเก็บน้ำลำตะเพิน ดาวเต็มฟ้าเลยถ่ายรูปซะหน่อย..

บรรยากาศยามเช้าริมอ่างเก็บน้ำลำตะเพิน ณ ไร่คงเดือน

จุดหมายแรกของเราเช้านี้คือ “วัดดงเสลา” ที่ภายในโบสถ์เป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อขุนด่าน

“หลวงพ่อขุนด่าน” หรือพระพุทธสุพรรณมุนีศรีศาสดา เป็นพระพุทธรูปปางพิจารณาชราธรรม ซึ่งมีขนาดหน้าตักกว้าง 8 เมตร สูง 9.9 เมตร มีความเชื่อกันว่าถ้ามาถวายดาบแล้วจะสามารถฝ่าฟันอุปสรรคไปได้

ปิดท้ายการเดินทางครั้งนี้ด้วยการมาเดิน “ตลาดร้อยปีสามชุก” ตลาดดังเมืองสุพรรณ แม้จะไม่ใช่วันสุดสัปดาห์แต่ร้านรวงต่างๆ ก็ยังเปิดอยู่ คนน้อยๆ เดินเที่ยวสบายเลย