- All About Thailand

ประธานฝ่ายปฏิบัติการ กล่าวว่า “ แผนการดำเนินธุรกิจและการตลาด บริษัทฯมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดเนื่องจากตลอดระยะเวลา 2 ปี บริษัทฯ มีการปรับตัวเพราะไวรัสโควิด-19 ระบาด จึงมุ่งวางโพสิชันนิ่ง ตั้งแต่ปี 2022 – 2023 ซึ่งปี 2022 ตั้งแต่ Q1-Q 2 เน้นการผลิตคอนเทนต์ออนไลน์ และ ตลาดคริปโต ซึ่งทางบริษัทฯ ผุดเหรียญ BNK TOKEN เพื่อนำไปขยายในทุกกิจกรรมของเมมเบอร์ เพื่อให้แฟนแฟนได้มีส่วนร่วมกับเมมเบอร์มากขึ้น อาทิ เลือกเพลง เลือกเมมเบอร์ในการแสดงโชว์ เลือกเสื้อผ้าให้แก่เมมเบอร์ เป็นต้น
บริษัทฯ มีจุดเด่นกลยุทธ์ 48 Groups ในปี 2022 วง BNK48+ CGM48 มีเมมเบอร์ทั้งหมด 78 ท่าน บริษัทฯ เปิดให้รับชมคอนเทนต์ผ่านโซเซียลมีเดียครอบคลุมทุกช่องทางออนไลน์ อาทิ Facebook , YouTube , Twitter , Instagram และ TikTok รวมถึงแอปพลิเคชัน iAM บริษัทฯ เดินหน้าผลิตคอนเทนต์ออนไลน์ต่อเนื่อง สร้างสรรค์ สนุก แตกต่าง ดังนั้น วง BNK48 ภายใต้ชื่อ BNK48 Digital Live Studio และวง CGM48 ภายใต้ชื่อ CGM48 Pop Up Live โดยวางรูปแบบการออนไลน์ให้ชมทุกสัปดาห์ กลยุทธ์นี้มัดใจแฟนแฟนเพื่อให้ใกล้ชิดเมมเบอร์ เมมเบอร์แต่ละท่านได้ฝึกทักษะเพื่อรองรับอนาคตโลกออนไลน์ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด นับว่าเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ซัคเซสในการสร้างฐานแฟนคลับให้เกิด Engagement ที่ดี”

ประธานฝ่ายปฏิบัติการ กล่าวต่อไปว่า “บริษัทวางกลุ่มเป้าหมายแบ่งเป็น 2 กลุ่มได้แก่ กลุ่มแฟนคลับเดิมและขยายกลุ่มเป้าหมายใหม่ คือ กลุ่มบุคคลทั่วไป ซึ่งเหรียญ BNK TOKEN สามารถลงทุน กลุ่มนี้จะมีความหลากหลายใน Use Cases เกิดแวลู่ที่แข็งแรง
นอกจากนี้บริษัทฯปลื้ม Big Events ภายใต้ชื่อกิจกรรมสุดยิ่งใหญ่ “BNK48 12th Single Senbatsu General Election” หรือ GE ครั้งที่ 3 ค้นหาเซ็มบัตสึสำหรับซิงเกิลที่ 12 โดยมีศิลปินไอดอลหญิงวง BNK48 และศิลปินไอดอลหญิงวง CGM48 กว่า 64 เมมเบอร์ โดยนำเหรียญ BNK TOKEN เปิดให้แฟนแฟนมาร่วมโหวต ภายใต้คอนเซ็ปต์ Decentralized Good Governance จากการสรุปแฟนแฟนมีการใช้เหรียญกว่า 99 เปอร์เซ็นต์ แฟนแฟนตอบรับดีเกินคาด

สำหรับปี 2021 รายได้โดยรวม 190 ล้านบาท ในปี 2022 ตั้งเป้าการเติบโตรายได้แตะ 400 ล้านบาท ซึ่งในเดือนมกราคมจนถึงเดือนพฤษภาคม 2022 ขณะนี้โกยรายได้ไปกว่า 200 กว่าล้านบาท คาดว่าสิ้นปี 2022 รายได้เป็นไปตามที่ตั้งเป้าแน่นอน ซึ่งแบ่งสัดส่วนรายได้จากกลุ่ม Events 25 เปอร์เซ็นต์ กลุ่ม Merchandiser 25 เปอร์เซ็นต์ และ Digital Online 50 เปอร์เซ็นต์ บริษัทฯ วางโมเดลกลยุทธ์เพิ่มสัดส่วนรายได้จากกิจกรรมอีเว้นต์ออนไลน์และออนกราวด์ รวมถึงดิจิตอลคอนเทนต์ที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้เตรียมจ่อภาพยนตร์ผ้าผีบอก 23 มิถุนายนศกนี้ และซีรี่ส์ปลายปี 2022 คาดว่าจะเพิ่มฐานลูกค้าและการรับรู้กลุ่มเป้าหมายใหม่ใหม่ให้เกิดขึ้น ”

“ทั้งนี้ในปี 2023 คาดว่าเติบโตกว่าปี 2022 มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ บริษัทวางแผนกิจกรรมไว้ค่อนข้างปริมาณสูง บริษัทฯ เตรียม Big Events ใหญ่เกิดขึ้นปีละ 2 ครั้ง ไฮไลท์ คือกิจกรรม Janken Tournament และ คอนเสิร์ตที่เตรียมความสนุกให้แฟนแฟน บริษัทฯ แตกไลน์ผลิตคอนเทนต์ภาพยนตร์หรือซีรี่ส์ ปีละ 2 เรื่อง รวมถึงวางกลยุทธ์การจับมือแพลตฟอร์มชั้นนำเพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายเพิ่มรายได้ และเตรียมส่งออกภาพยนตร์หรือซีรี่ส์ไปยังต่างประเทศ เพื่อไปสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยและแสดงถึงศักยภาพบริษัทฯ ในการทำงานสร้างสรรค์ครีเอทคอนเทนต์ ปัจจุบันบริษัทฯ คว้ารางวัลการแสดง และ เพลง บนเวทีรางวัลคุณภาพชั้นนำในประเทศไทยมาตลอดระยะเวลา 5 ปี

อย่างไรก็ตามในช่วงเดือนมิถุนายนจนถึงเดือนธันวาคม 2022 กิจกรรมที่เกิดขึ้นครั้งแรกและกิจกรรมที่ได้รับการตอบรับดีจึงจัดอย่างต่อเนื่อง ดังนี้ กิจกรรม Trading Market , CGM48 Fanmeet จัดขึ้นครั้งแรกเพื่อให้แฟนแฟนใกล้ชิดเมมเบอร์ ณ จังหวัดเชียงใหม่ , Indy Concert เป็นกิจกรรมที่เมมเบอร์แสดงศักยภาพแต่งเพลง โปรดิวเซอร์เพลง สไตล์ของแต่ละเมมเบอร์เพื่อเติบโตในเส้นทางสายดนตรี , Matsuri สร้างความสนุกความแปลกใหม่สไตล์งานวัดญี่ปุ่นครั้งแรกในเมืองไทย คาดว่าแฟนแฟนชื่นชอบ และ กิจรรม Sportday ที่ตอบรับดีล้นหลาม เตรียมกลับมาในปีนี้เช่นกัน ตบท้ายด้วย กิจกรรม Request hours ตามคำเรียกร้องของแฟนแฟน รวมถึงคอนเสิร์ตส่งท้ายปี 2022 จากเมมเบอร์รุ่นที่ 1 เพื่อส่งต่อความสุขและอบอุ่น

“จากการประเมินผลการติดตามแฟนแฟนที่ในสังคมออนไลน์ โดยเฉลี่ยเติบโต 1-2 เปอร์เซ็นต์ทุกเดือน โดยการติดตามเพิ่มมาจากเมมเบอร์ที่มีจำนวนมากขึ้น เมมเบอร์รุ่น 3 วง BNK48 ส่วนยอดการดูยูทูป 800 กว่าล้านวิว ทำให้บริษัทฯ เห็นทิศทางการเติบโตการติดตามของแฟนแฟนสนับสนุนเมมเบอร์และความเคลื่อนไหวบริษัทฯ ผ่านโลกออนไลน์มากขึ้น สำหรับภาพรวมตลาดอุตสาหกรรมบันทิงไทย บริษัทฯ จึง ปรับเปลี่ยนคอนเทนต์ และนำเทคโนโลยีสู่โลกดิจิตอลมากขึ้น เช่น คริปโต เพื่อออกเหรียญ BNK TOKEN รวมถึง NFT อุตสาหกรรมบันเทิงไทยเตรียมสู่ Digital Transformation มากขึ้นในอีก 5 ปีข้างหน้า ” ประธานฝ่ายปฏิบัติการ กล่าวทิ้งท้าย