สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) จัดกิจกรรมท่องเที่ยวสายบุญเทศกาลออกพรรษา

เมื่อวันที่ 8-11 ตุลาคม 2565 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครพนม โดย ผอ.กนกวรรณ ดุงศรีแก้ว และ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร โดย นายชูพงษ์ คำจวง นายก อบจ.สกลนคร ร่วมกับ สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) จัดกิจกรรม ท่องเที่ยวสายบุญเทศกาลออกพรรษา โดยมีคณะนักท่องเที่ยวจากบริษัท เมืองไทย ครีเอทีฟ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมืองมายังท่าอากาศยานอุดรธานี จากนั้นเปลี่ยนการเดินทางเป็นรถตู้ปรับอากาศจำนวน 6 คัน และเดินทางด้วยรถตู้ปรับอากาศโดยตรง 2 คัน และรถส่วนตัว 1 คัน รวม 9 คัน จำนวนนักท่องเที่ยวรวมเกือบ 100 ท่าน

จุดหมายแรกของการเดินทางคือ การมาเยี่ยมชม และ กราบไหว้ขอพรพ่อปู่ศรีสุทโธ และแม่ย่าศรีปทุมมา ณ "คำชะโนดวังนาคินทร์" อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี

จากนั้นคณะเดินทางต่อมายังจังหวัดนครพนม มากราบสักการะ "พระธาตุศรีคุณ" อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นพระธาตุประจำวันเกิดวันอังคาร

ต่อด้วยการมาสักการะพระธาตุพนม พระธาตุประจำปีเกิดปีวอกและวัดอาทิตย์ ณ อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม และในครั้งนี้ พระมหาอารีย์ พลาธิโก ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธาตุพนม ได้นำคณะร่วมทำบุญห่มผ้าองค์พระธาตุพนม และได้แจกวัตถุมงคลแก่ผู้ร่วมคณะ

หลังรับประทานอาหารเย็นคณะได้เดินทางไป "ลานพญาศรีสัตตนาคราช" เพื่อชมงานประเพณีไหลเรือไฟ ประเพณีที่ยิ่งใหญ่ประจำจังหวัดนครพนม

ช่วงเช้าคณะลงเรือ ล่องชมบึงหนองหาร ไปชมเกาะดอนสวรรค์ จุดท่องเที่ยวทางธรรมชาติของจังหวัดสกลนคร ด้านบนเกาะมีโบสถ์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ

จากนั้นเดินทางมาสักการะ "วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร" วัดพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองสกลนคร

เยี่ยมชมสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ พญาเต่างอย โดยมี นายเรืองทรัพย์ งอยจันทร์ศรี นายก อบต.เต่างอย มาให้การต้อนรับคณะ และเล่าประวัติความเป็นมาของพญาเต่างอย

พิพิธภัณฑ์ภูพานและท้องฟ้าจำลอง จ.สกลนคร เป็นแหล่งเรียนรู้ของจังหวัดสกลนคร ดินแดนแห่งธรรมประกอบด้วย ธรรมะ อารยธรรม วัฒนธรรม ธรรมชาติ ในพิพิธภัณฑ์ภูพานจัดแสดงโซนต่างๆ เช่น โหมโรง ,นิทรรศการ “มหัศจรรย์ภูพาน”, ป่าบุ่งป่าทาม ป่าพรุอีสาน, หนองหารกับการตั้งเมืองสกลนคร, ตำนานหนองหาร “ผาแดงนางไอ่”, อาศิรวาทองค์ราชัน องค์ราชินี, นิทรรศการเทิดพระเกียรติ, ดินแดนแห่งธรรม, และประติมากรรมลานกลางแจ้ง รวมถึงยังมีอาคารท้องฟ้าจำลอง แหล่งเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์อีกด้วย

ช่วงเย็นคณะได้เดินทางมาชม "ประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง"หนึ่งไฮไลท์ของทริปนี้ ชมขบวนปราสาทผึ้ง ประกอบแสง สี เสียง ประกอบด้วยการแสดงพื้นบ้านต่าง ๆ ของสภาวัฒนธรรมอำเภอทุกอำเภอ เช่น การแต่งกาย 6 เผ่า การรำมวยโบราณ การฟ้อนภูไท (ผู้ไท) การแสดงดนตรีพื้นเมือง การแสดงถึงวิถีชีวิตของคนสกลนคร ซึ่งเป็นประเพณีที่มีความสนุกสนาน แต่แฝงไปด้วยความเชื่อในพระพุทธศาสนาเป็นสำคัญ และถือเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของจังหวัดสกลนครด้วย

รับประทานอาหารเย็นร้านอาหารเจ้าจันทร์ มีกิจกรรมฉลองวันเกิดให้กับผู้ร่วมคณะที่มีวันเกิดในเดือนนี้

ดร.ชูพงศ์ คำจวง นายก อบจ.สกลนคร กล่าวต้อนรับคณะฯ

เช้าวันถัดมาคณะได้ร่วมทำบุญใส่บาตร ณ วัดมหาธาตุ จังหวัดนครพนม

จากนั้นเดินทางมาขอพร "เจ้าปู่อือลือนาคราช" บึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ

ชม "น้ำตกถ้ำพระ" แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ

"โขงค้ำคูณ รีสอร์ท" อำเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ รับประทานอาหารค่ำ และชมบั้งไฟพญานาค ซึ่งเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของทริปนี้ โดยช่วงเวลาการชม 19.15น.-19.40น. มีบั้งไฟพญานาคขึ้นทั้งหมด 23ลูก

เช้าวันสุดท้ายของการเดินทาง คณะได้เดินทางมากราบสักการะพระธาตุบังพวน "วัดพระธาตุบังพวน" พระธาตุบังพวนมีเนื้อที่ 102 ไร่ เจดีย์พระธาตุบังพวน เป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยม สร้างด้วยศิลาแลง อิฐดินเผา พ.ศ. 2210 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา
วัดพระธาตุบังพวน เป็นวัดราษฎร์ ตั้งอยู่ที่ 172 หมู่ 3 ตำบลพระธาตุบังพวน อำเภอเมืองหนองคาย

"วัดโพธิชัย" กราบขอพรหลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัยเป็นวัดหลวงคู่บ้านคู่เมืองหนองคาย เช่นเดียวกับหลวงพ่อพระใสที่เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองหนองคาย เป็นที่สักการะของทั้งชาวไทยและชาวลาว ตั้งอยู่ที่ ต.ในเมือง (เทศบาลเมืองหนองคาย) อ.เมืองหนองคาย

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านวีทีแหนมเนือง จังหวัดอุดรธานี ก่อนออกเดินทางไปยัง ท่าอากาศยานอุดรธานี เดินทางกลับโดยสายการบินนกแอร์ เที่ยวบิน DD305 ถึงท่าอากาศยานดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ