ถวายเทียนพรรษา เที่ยววัดวา ศรัทธาอ่างทอง

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุพรรณบุรี สมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.) บริษัทเมืองไทยครีเอทีฟแอนด์ทัวร์จำกัด และสำนักข่าวท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อม (สทส.) จัดกิจกรรม ถวายเทียนพรรษา และห่มผ้าพระนอน เยือน "ลานประกาศอิสรภาพสมเด็จพระนเรศวรมหาราช" เส้นทาง กรุงเทพฯ- วัดไชโยวรวิหาร - วัดขุนอินทประมูล - ตลาดศาลเจ้าโรงทอง - วัดม่วง - วัดจันทรังษี - ลานอิสรภาพ 109

วันอาทิตย์ ที่ 30 มิถุนายน 2567 เวลา 06.30 น. โรงแรมเดอะบาช่าร์ รัชดาภิเษก นักท่องเที่ยวเดินทางมาลงทะเบียน รับป้ายคล้องคอ รับเครื่องดื่มร้อน ชา กาแฟ โอวันติน โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกก่อนการเดินทาง

เวลา 07.00 น. ออกเดินทาง โดยรถบัสปรับอากาศ VIP ไปยัง จังหวัดอ่างทอง บริการอาหารเข้าแบบเซ็ทกล่อง มีมัคคุเทศก์ให้ข้อมูลเส้นทางท่องเที่ยวและข้อมูลประวัติสถานที่ต่างๆที่จะเดินทางไป

จุดหมายแรก “วัดไชโยวรวิหาร” ต.ไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง คณะนักท่องเที่ยวร่วมกันถวายเทียนพรรษา วัดที่1

“วัดไชโยวรวิหาร” พระอารามหลวงชั้นโท เป็นที่ประดิษฐาน “พระมหาพุทธพิมพ์” พระพุทธรูปปางสมาธิ ที่สร้างโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ขนาดหน้าตักกว้าง 8 วา 6 นิ้ว สูง 11 วา ศอก 7 นิ้ว

จากนั้นเดินทางต่อมายัง “วัดขุนอินทประมูล” ต.อินทประมูล อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง โดยมี ผอ.อภิวัฒน์ ทับทิมโต ผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุพรรณบุรี ให้การต้อนรับและ ร่วมห่มผ้า องค์พระพุทธไสยาสน์ สมัยสุโขทัย ที่มียาวกว่า 50 เมตร ร่วมกับคณะนักท่องเที่ยว

คณะนักท่องเที่ยวทำกิจกรรมร่วมห่มผ้า องค์พระพุทธไสยาสน์

“วัดขุนอินทประมูล” สร้างในสมัยสุโขทัย เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์วัดขุนอินทประมูล ที่มีความยาวกว่า 50 เมตร แต่เดิมมีวิหารปกคลุม แต่ได้เกิดเหตุไฟไหม้จนทำให้วิหารพังทลายลง เหลือไว้เพียงแต่องค์พระที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานับร้อยๆ ปี

รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านนิรมิต โดยมี ผอ.อภิวัฒน์ ทับทิมโต ผอ.การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุพรรณบุรี กล่าวต้อนรับคณะนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ

เดินย่อยอาหารและช้อปปิ้ง ตลาดศาลเจ้าโรงทอง

ตลาดวิเศษชัยชาญ ตลาดโบราณ ร้อยปี หรือ ตลาดศาลเจ้าโรงทอง เป็นตลาดโบราณของจังหวัดอ่างทองมายาวนานเป็นร้อยปีตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นตลาดหัวเมืองที่สำคัญในยุคที่บ้านเราค้าขายขนส่งสินค้าต่างๆ ด้วยเรือ และเมื่อถนนมาทุกอย่างก็แปรเปลี่ยน ปัจจุบันคนในพื้นที่ยังคงให้ความสำคัญ และอนุรักษ์ตลาดเก่าโบราณนี้ไว้ ทำให้กลับมาคึกคักเหมือนเดิมและมีนักท่องเที่ยวมามากมาย มีร้านค้าต่างๆ ในตลาดนี้ส่วนใหญ่จะเป็นร้านของคนไทยเชื้อสายจีนค่ะ มีร้านอาหารอร่อยๆ มากมาย รวมไปถึงขนมไทยโบราณ มีพิพิธภัณฑ์บ้านเก่าโบราณให้เราได้เข้าชม และข้าวของเครื่องใช้ ของที่ระลึกต่างๆ ให้ซื้อกลับบ้านกันได้อีกด้วย

จากนั้นเดินทางไปยัง วัดม่วง ต.หัวตะพาน อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ร่วมถวายเทียนพรรษาเป็นวัดที่ 2

“วัดม่วง” เป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อใหญ่” หรือ “พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ” พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตักกว้าง 63 เมตร สูง 95 เมตร

ต่อกันที่ วัดจันทรังษี ต.หัวไผ่ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง ร่วมถวายเทียนพรรษาเป็นวัดที่ 3

“วัดจันทรังษี” สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2446 ภายในวัดมีวิหารจัตุรมุขมียอดบุษบกกลาง 5 ชั้น สูง 48 เมตร กว้าง 24 เมตร ยาว 33 เมตร ภายในมีรูปหล่อหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ (หลวงพ่อสด จันทสโร) หล่อด้วยโลหะองค์ใหญ่สุดในโลก

ลานประกาศอิสรภาพสมเด็จพระนเรศวนมหาราช แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ บนพื้นที่ 200 ไร่ ของตำบลสายทอง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง นายถวัลย์ เมืองช้าง ผู้ริเริ่มโครงการก่อสร้างองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หมายถึงความเป็นใหญ่ ความเป็นไทแก่ตัว การปกครองตนเอง ซึ่งองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระองค์ทรงประกาศความเป็นไทย ความเป็นใหญ่ ให้กับซาติบ้านเมืองและทรงกอบกู้เอกราชให้ซาติไทยมาเป็นเวลาช้านาน ลานอิสรภาพจึงถูกตั้งขึ้นมาเทิดพระเกียรติในความมุ่งมานะ ความเสี่ยสละ ความรักซาติของพระองค์ท่าน